ซัลตัน อิบรากิมอฟ นักมวยร่างยักษ์นำเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของดับเบิ้ลยูบีโอกลับสู่แดนหมีขาวได้สำเร็จ หลังจากเป็นฝ่ายเดินหน้าประเคนหมัดใส่ แชนน่อน บริกก์ส แชมป์ชาวอเมริกันที่ขึ้นชกทั้งที่ยังป่วยอยู่ จนหมดสภาพแพ้คะแนนขาดลอย ในการชกที่นิวเจอร์ซี่ย์ ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ซัลตัน อิบรากิมอฟ นักมวยชาวรัสเซีย กลายเป็นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตขององค์กรมวยโลก (ดับเบิ้ลยูบีโอ) คนใหม่ หลังจากเอาชนะคะแนน แชนน่อน บริกก์ส เจ้าของตำแหน่งชาวอเมริกันอย่างเป็นเอกฉันท์ 119-109,117-111 และ 115-113 ในการชกที่บรอดวอลค์ ฮอลล์ เมืองแอตแลนติก ซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อิบรากิมอฟ วัย 32 ปี อาศัยความว่องไว และทักษะการชกระดับเหรียญเงินโอลิมปิก ออกหมัดเล่นงานนักมวยเจ้าถิ่นที่ปักหลักรอจังหวะปล่อยหมัดเคาน์เตอร์ แต่ยิ่งการชกผ่านพ้นไปรองแชมป์อันดับ 1 ของดับเบิ้ลยูบีโอกลายเป็นฝ่ายคุมการชก มีโอกาสไล่ต่อย บริกก์ส เข้าติดเชือกหลายครั้งในช่วงยกท้ายๆ แต่ไม่สบโอกาสเผด็จศึกจนกระทั่งจบยก 12
หลังจากเป็นฝ่ายชูมือชนะคะแนนกลายเป็นแชมป์โลกคนใหม่ อิบรากิมอฟ เพิ่มสถิติการชกเป็นชนะ 21 ครั้ง (เคโอ 17) และเสมอ 1 ครั้ง กล่าวว่า "แชนน่อน บริกก์ส เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ผมต้องชกอย่างระมัดระวังในพลังหมัดของเขา คืนนี้ผมจะได้เข้านอนในฐานะแชมป์โลก และพรุ่งนี้ผมจะได้ตื่นขึ้นมาในฐานะแชมป์"
ทางด้านบริกก์ส ที่ต้องมาเสียแชมป์ตั้งแต่การป้องกันตำแหน่งครั้งแรก โดยเขามีสถิติแพ้เพิ่มเป็น 5 ครั้ง ชนะ 48 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้งเผยว่าเขามีอาการป่วยก่อนการชกทำให้ไม่อาจเดินเข้าแลกได้เหมือนปกติ "ผมต้องใช้ยาฆ่าเชื้อทุกชนิด และไม่อาจฝึกซ้อมได้ตลอด 2 สัปดาห์สุดท้าย ผมไม่ต้องการจะขึ้นชก แต่ถ้าผมยกเลิกการชกพวกเขาขู่ว่าจะฟ้องร้องผม และริบเข็มขัดแชมป์ไป"
นอกจากนี้ชัยชนะของอิบรากิมอฟ ยังทำให้แชมป์โลกรุ่นยักษ์ 4 สถาบันหลักกลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองของนักมวยจากประเทศที่แยกตัวมาจากสหภาพโซเวียตอีกครั้ง หลังจากเซอร์เก เลียโคห์วิช นักมวยชาวเบลารุสพลาดท่าถูก บริกก์ส ชนะน็อกเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่อีก 3 เส้นที่เหลือเวลานี้เป็นของโอเล็ก มาสเกฟ (สภามวยโลก,รัสเซีย),รุสลัน ชาเกฟ (สมาคมมวยโลก,อุซเบกิสถาน) และวลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ (สหพันธ์มวยนานาชาติ,ยูเครน)
http://www.siamsport.co.th/25500603-034.html