เมื่อคืนทางค่ายผมมีนักมวย "ส่งเข้าประกวด" สองคน เป็นรายการมวยเล็กๆครับ คือเป็นประเพณีค่ายมวยในอเมริกา ที่จะจักการแข่งขันแบบ tournament ในค่าย เอาเด็กหัดใหม่ป้ายแดงมาชกแข่งขันกัน เมื่อคืนเป็นรายการของ ค่าย ศิษย์ยอดธง (อเมริกา) โดยมี วอล์เตอร์ โควอลซกี้ เป็นเจ้าของ
วอล์เตอร์ เป้นนักเรียนคนสุดท้ายของ น่านฟ้า สีหราชเดโช เมื่อสิ้นน่านฟ้า เขาก็ไปเรียนกับครูเสกสรร จันจิรา ซึ่งมาจาก ศิษย์ยอดธง เวลเตอร์ เคยไปซ้อม และชกที่เมืองไทย เพื่อนๆในค่ายที่เมืองไทยเรียกเขาว่า "ลูกน้ำ" (มาจาก Walter - water - น้ำ)
นอกเหนือจากอุปกรณ์ป้องกันคือ ฟันยางและกระจับแล้ว นักมวยจะต้องใส่หมวกเฮดการ์ด สนับแข้งบุฟองน้ำ และชกด้วยนวม 16 ออนซ์
ก่อนเริ่มรายการก็มีการยืนเคารพเพลงชาติอเมริกันและเพลงชาติไทย ทุกคนหันไปที่กำแพงด้านหนึ่งมีหิ้งพระ ชาติไทย และธงชาติอเมริกัน ครูมวยที่มาช่วยงาน ก็มาช่วยลงแรงผลัดกันเป็นกรรมการห้ามบนเวที และเป็นกรรมการให้คะแนน ผมช่วยให้คะแนนคู่ 1 ถึง คู่ 3 เพราะคู่ต่อไปนักมวยผมชก จะให้คะแนนไป เผลอเชียร์ไป มันคงไม่ดี และนักมวยอีกคนชกเป็นคู่ 7 ทั้งหมดมี9 คู่ มีมวยหญิงด้วยครับ
เราใช้เวทีร่วมกัน ทั้งมวยหญิง มวยชาย มวยเด็ก มวยผู้ใหญ่ โดยไม่ต้องเกรงว่า จะผิดครู หรือ ของจำเสื่อม - นึกถึงข้อเขียนจากครูโบราณท่านหน่งที่บอกว่า ถ้าผู้หญิงทำให้ของเสื่อม ของนั้นก็ไม่ดีจริงนะซิ สู้ให้ผู้หญิงทำของขลังแจกนักมวยมิดีกว่าเหรือ ผมไม่ได้นำคำพูดของท่านมาพิมพ์ซ้ำคำต่อคำนะครับ ผมนำใจความมาเล่าซ้ำนะครับ
คนชนะได้ถ้วย คนแพ้ได้เหรียญคล้องคอ นักมวยของผม คนแรก เข้าที่หนึ่ง ส่วนอีกคน เข้าที่สอง
เห็นฝรั่งหลายคน ใส่พระคล้องคอหลายองค์เป็นพรวนก็มี ใส่เดี่ยวๆก็มี (ยังไม่เห็นใครแขวนจตุ คามฯ) เมื่อมาเจอเพื่อนต่างค่าย เขาจะยกมือไหว้กันก่อน-ตรงนี้เขาได้มาจากครูมวยชาวไทยครับ - แล้วถึงเชคแฮนด์ หรือสวมกอดกัน
.....จากจุดนี้แหละครับ ที่อเมริกาผลิตนักมวยไทยฝีมือดีขึ้นมา
คุยกับ แก่นศักดิ์ (ส. เพลินจิต) ที่มากับนักมวยและครูมวยคนอื่นของค่าย เอกโยธิน เขาเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย ได้คุยเรื่องวงการมวยสมัยที่เขาชกซึ่งคงเป็นช่วงยุคสุดท้าย ของมวยระดับแนวหน้าที่ยอดฝีมืออย่าง ตัวแก่นศักดิ์เอง วังจั่นน้อย คฤหาส์ พวกนี้ แล้วย้อนมาดูสังคมมวยปัจจุบันชวนให้หดหู่ครับ ทั้งการพนัน อิทธิพลมืดจาก "ขาใหญ่" การลดหายไปของแฟนขาจร การผลิตนักมวยเพื่อเอาใจ "ตลาด" ที่ชักนำให้นักมวยปัจจุบัน ฝีมือไม่ดีเท่านักมวยแม้เพียงทศวรรษที่แล้วนี้เอง คนที่เข้ามาสู่วงการมวย ไม่ใช่เพราะมีมวยเป็นแรงจูงใจหลัก และการพนันต่างหาก
แต่....ยังพอมีความหวังครับ เพราะผมได้มาเจอ มาอ่านและพูดคุยกับคนในห้องสนทนานี้ ผู้คนในห้องนี้จะเป็น สายเลือดใหม่ - new blood - ที่จะเข้ามากำจัดเลือดเก่าที่เสียๆออกไป
เป็นงานที่ต้องกินเวลาพอควร แต่ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะ พวกเรา อย่างเช่น "หลานคนใหม่" ของผมที่อยู่ภูเก็ต เป็นต้น ที่กำลังทำในสิ่งที่ตัวเองชอบเราก็ทำมันได้ตลอดไป