พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า กำหนดการรายงานตัวของทีมมวยสากลสมัครเล่น 43 คน ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ จะให้ทีมเอ แยกซ้อมในกรุงเทพมหานคร ส่วนทีมบี และทีมเยาวชน จะซ้อมที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เพื่อดูการพัฒนาฝีมือและดูการพัฒนาว่ามีมากน้อยแค่ไหน
โดยจะเฟ้นนักมวยทีมบี และดาวรุ่ง แบบประกบเป็นรุ่นละ 3 คน เพื่อสร้างทดแทนกันให้ได้ และให้พัฒนาใกล้เคียงกันเหมือนกับนักมวยคิวบา ซึ่งตนจะเข้าไปดูในด้านเทคนิคอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับปรุงและแก้ไขสิ่งที่ยังขาด พร้อมกับพิจารณาแผนการส่งแข่งขันต่างประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากนักชกไทยหลายคนแสดงให้เห็นในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 มีอาการเกร็ง และแก้ไขสถานการณ์บนเวทีไม่ดีนัก น่าจะเกิดจากการขาดโปรแกรมแข่งขัน สำหรับรุ่นที่น่าห่วง คือรุ่นไลต์ฟลายเวท และรุ่นฟลายเวท เนื่องจากสุบรรณ พันโนน และสมจิตร จงจอหอ อายุมากแล้ว ยังไม่มีดาวรุ่งที่ฉายแวว ส่วนรุ่นที่เหลือไม่หนักใจ เชื่อว่าจะชดเชยกันได้อย่างไม่ขาดตอน
เสธ.วีป กล่าวอีกว่า ตนจะสร้างให้อังคาร ชมพูพวง มีลีลาแบบ สุริยา ปราสาทหินพิมาย โดยเฉพาะในเรื่องการฟุตเวิร์กและการป้องกันตัว เนื่องจากอังคาร เป็นนักมวยที่มีสรีระดี น้ำหนักหมัด และจิตใจเป็นต่อ แถมมีระเบียบวินัยสูง เชื่อว่าน่าจะพัฒนาสู่ระดับโลกได้ภายในเวลาไม่เกิน 2-3 ปี และจะทำให้ทีมมวยไทยรุ่นกลางๆ มีความแข็งแกร่งน่ากลัว เช่น รุ่นไลต์เวท ได้แก่ พิชัย สายโยธา รุ่นไลต์เวลเตอร์เวท ได้แก่ มนัส บุญจำนงค์ แต่ระยะเวลา 2-3 ปีนับจากนี้ ตนจะใส่ใจ และติดตามดูนักมวยเยาวชน เพื่อสร้างให้เป็นนักชกระดับโลกให้ได้ ขณะที่วรพจน์ เพชรขุ้ม ในรุ่นแบนตัมเวท ก็เป็นอีกรายที่สามารถพัฒนาเชิงชกได้อีกเยอะ เนื่องจากอายุยังน้อย และไม่มีอุปสรรคเรื่องน้ำหนักตัว
thairath