เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม 2550 ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ อดีตแชมป์โลกมวยสากลอาชีพWBC ชาวไทย ตัดสินใจเซ็นสัญญา K-1 กับบริษัท T-Entertainment เพื่อชกในศึก เค-วัน ข่าน2007 ที่เกาหลีใต้ 3ไฟต์ต่อปี โดยมีประธาน K-1เกาหลี มร.หยาง คุ้ย มาร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ ร้านอาหารสวนลุมซีฟู๊ด ในสวนลุมไนท์บาซ่าร์ เป้าหมายหลักของศิริมงคลนั้นคือได้เจอกับ ยอง ซู ชอย คู่ปรับเก่าในกติกาK-1 ไฟต์แรกมีกำหนดชกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 เจอ โคโซะ นักมวยญี่ปุ่น(ในข่าวเกาหลี เจอ ฮาน วุล คิม)ที่กรุงโซล ไฟต์ที่2ชกที่เกาหลีอีกครั้ง ส่วนไฟต์ที่3อาจได้สู้ที่เกาหลี,ญี่ปุ่นหรือจีน เพราะ K-1 Khan มีโครงการที่จะขยายการแข่งขันไปประเทศจีนปลายปีนี้
เป็นที่หน้าแปลกใจเป็นอย่างมากที่อดีตแชมป์มวยสากลชาวไทยต้องเปลี่ยนจากสวมรองเท้ามาใส่แองเกิ้ลแทน อีกทั้งกติกาการต่อสู้ก็ต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเพราะการแข่งขันเค-วันกติกาใกล้เคียงกับมวยไทยเป็นอย่างมาก แต่หากย้อนเวลากลับสู่อดีต ศิริมงคลเองก็เคยผ่านสังเวียนอาชีพในแบบมวยไทยมาตั้งแต่อายุ 10ขวบ ชกมาทั้งสิ้น 65ครั้ง ได้แชมป์รุ่น 105ปอนด์ เวทีมวยรังสิต เมื่อตอนเจ้าตัวยังเรียนอยู่ชั้นม.3 จนกระทั่งถูกทาบทามจาก สหสมภพ ศรีสมวงศ์(ล่วงลับไปแล้ว)ให้มาชกมวยสากลอาชีพในเวลาต่อมาเพราะเห็นแววว่าชกมวยสากลมีโอกาสรุ่งมากกว่า ศิริมงคลชกมวยสากลอาชีพจนกระทั่งมาได้แชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวทเมื่อปี2539และรุ่นซุเปอร์เฟเธอเวทปี2545 ในปี2546 เคยป้องกันแชมป์WBCกับซุเปอร์สตาร์ชาวเกาหลี ยองซู ชอย ไฟต์นั้นศิริมงคลเป็นฝ่ายชนะคะแนน
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันที่18 กันยายน 2549 ยอง ซู ชอย คู่ปรับเก่าศิริมงคล ได้ขึ้นชก K-1 Khan 2006เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะน๊อคนักมวยไทย ไดรตัน รามา(สวีเดน)ในยกที่1 สามารถเรียกคนดูอย่างมโหฬาร เพราะทุกคนต่างมาเพื่อดู ยอง ซู ชอย ประธานK-1เกาหลี หยาง คุ้ย กล่าวว่า"ไฟต์นั้นที่ยองซูมาชกK-1มีสื่อมวลชนติดตามทำข่าวกันอย่างมากมาย วันที่เขาขึ้นชกคนดูเต็มสนามเลยทีเดียว ในเกาหลี K-1รู้จักกันเฉพาะในรุ่นเฮฟวี่เวท รู้จักแค่ ฮองมัน ชอย แต่K-1 Khan ชาวเกาหลีรู้จักกันน้อยมาก เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่ชอบดูฟุตบอลและมวยสากลเป็นหลัก เรารู้ว่าคนเกาหลีแทบทุกคนรู้จัก ยองซู ชอย เราจึงติดต่อให้เขามาชกในรายการนี้ K-1อาจรู้จักแค่คนบางกลุ่ม แต่ยองซู ชอย ที่เกาหลีทุกคนรู้จักเขาครับ เขาทำให้คนเกาหลีรู้จัก K-1 เขาดังกว่านักมวย K-1คนอื่นๆซะอีก ศึกครั้งนั้นเราจัดเพื่อเขาโดยเฉพาะ" นั่นเป็นคำบอกกล่าวของประธานเค-วันเกาหลี ที่กำลังจะบอกกับเราว่า เขาพยายามทำให้ K-1เป็นที่รู้จักของคนเกาหลีโดยการนำอดีตซุเปอร์สตาร์มวยสากลชื่อดังมาร่วมรายการจนประสบความสำเร็จ แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ขั้นต่อไปเขาต้องการทำให้ K-1 Khanเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เขาจึงบินมาประเทศไทยเพื่อให้ ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์คู่ปรับเก่าของ ยอง ซู ชอย เซ็นสัญญาชกK-1 โดยหวังว่าทั้งคู่จะได้เจอกันอีกครั้งในกติกา K-1 เขามั่นใจว่าจะเป็นการสร้างกระแสให้แฟนมวยในเกาหลี ไทย หรือทั่วโลกอยากติดตามความเคลื่อนไหวของนักมวยทั้งคู่ใน K-1
ช่วงเช้าของวันที่ 9 มกราคม 2550 ทางประธาน K-1เกาหลี ได้ส่งเลขาส่วนตัว ยอง คิม ให้มาถ่ายทำVTRที่ค่ายสิงห์มนัสศักดิ์ เพื่อนำวีดีโอเทปไปเปิดในงานแถลงข่าว K-1 Khan 2007ที่เกาหลี ซึ่งแน่นอนว่า ยอง ซู ชอย จะได้เห็นเทปของศิริมงคลซ้อมมวยไทยเป็นครั้งแรกด้วยการเตะเป้า,เตะกระสอบทราย และกล่าวอะไรถึงเขาบ้างในวันนั้น ซึ่งทางเว๊บเค-วันไทยแลนด์ก็ได้มีโอกาสติดตามคณะผู้สื่อข่าวเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ รวมถึงการสัมภาษณ์ ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ ให้แฟนมวยชาวไทยได้รับรู้กันครับ
เค-วันไทยแลนด์: ก่อนจะมาชกมวยสากล เคยชกมวยไทยไหมครับ?
ศิริมงคล: เคยชกมาบ้างครับ ผมชกมา 65ครั้ง ตอนนั้นชกพร้อมๆกับพี่ชาย มานพชัย สิงห์มนัสศักดิ์ ชกจนได้แชมป์มวยไทยที่เวทีมวยรังสิต รุ่น105ปอนด์แล้วก็ต้องเลิกไปเพราะตอนนั้นท่านสหสมภพ ศรีสมวงศ์ ติดต่อผมให้ไปชกมวยสากลครับ ตอนแรกเขาจะให้ผมชกในโอลิมปิก แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนมาชกมวยสากลอาชีพแทนครับ
เค-วันไทยแลนด์: ช่วงที่ไม่มีรายการชกมวยสากล ได้ซ้อมมวยไทยบ้างไหมครับ?
ศิริมงคล: ก็ซ้อมอยู่ครับ แต่ส่วนมากก็ช่วยล่อเป้านักมวยในค่าย ช่วยลงนวม ช่วยปล้ำตีเข่าครับ
เค-วันไทยแลนด์: รู้ข่าวของ ยอง ซู ชอย ที่หันมาชกK-1ไหมครับ?
ศิริมงคล: รู้ครับ ได้ข่าวว่าชนะน๊อคแค่ยกที่1
เค-วันไทยแลนด์: รู้ไหมครับว่า ยอง ซู ชอย มาซ้อมมวยไทยที่ค่ายเกียรติเพชร แล้วต้องกลับประเทศไปเพราะอาการบาดเจ็บ?
ศิริมงคล: จริงรึครับ ผมเองช่วงแรกๆที่ซ้อมเตะกระสอบก็เจ็บเหมือนกัน เพราะผมหยุดซ้อมมวยไทยไปนาน
เค-วันไทยแลนด์: รู้จัก K-1 มาก่อนไหมครับ?
ศิริมงคล: ก็รู้จักมาบ้างครับ K-1เขาห้ามศอกกับโน้มคอตีเข่า เข่าได้แต่ห้ามล๊อคคอคู่ต่อสู้
เค-วันไทยแลนด์: ทำไมถึงตัดสินใจชก K-1
ศิริมงคล: ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมไม่ค่อยมีโปรแกรมชกมวยสากล ผมรอไม่ไหว เราต้องกินต้องใช้นี่ครับ อีกอย่างผมก็อยากเจอกับ ยอง ซู ชอย อีกครั้งในกติกาK-1ครับ
เค-วันไทยแลนด์: ตอนเจอกับ ยอง ซู ชอย ในแบบมวยสากล รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?
ศิริมงคล: เราเคยสู้กันที่ญี่ปุ่น ยอง ซู เป็นนักมวยที่ชกด้วยยากครับ กว่าจะชนะมาได้ทำเอาผมเหนื่อยเลยครับ
เค-วันไทยแลนด์: คิดว่า หลังจากเซ็นสัญญา K-1 ไปแล้ว จะมีผลต่ออันดับมวยสากลใน WBC หรือไม่?
ศิริมงคล: คิดว่าไม่มีผลน่ะ เพราะเป็นกีฬาคนละชนิดกัน ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว
เค-วันไทยแลนด์: คิดว่าต่อไปจะได้แชมป์ K-1 ไหม?
ศิริมงคล: คิดว่าน่าจะได้ครับ เพราะหลังจากผมได้รู้ว่าทางเกาหลีต้องการให้ผมเซ็นสัญญา K-1เพื่อเจอ ยอง ซู ชอย ผมก็ฟิตซ้อมมาตลอดเลยครับ
เค-วันไทยแลนด์: จะใช้อาวุธอะไร สไตล์ไหนใน K-1?
ศิริมงคล: คงเตะเจาะยาง ตีเข่า สมัยที่ผมชกมวยไทย ผมเป็นประเภทมวยฝีมือ คือชกวงนอกซะมากกว่า ชกใน K-1 ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
เค-วันไทยแลนด์: หากวันหนึ่งศิริมงคลชกในK-1แล้วโด่งดังขึ้นมา หากต้องเจอกับ บัวขาว ป.ประมุข จะสู้ด้วยไหมครับ?
ศิริมงคล: ผมสู้ครับ สู้ได้อยู่แล้ว
เค-วันไทยแลนด์: หากตอนนี้ไม่ได้ชกมวย ป่านนี้คงทำอะไร?
ศิริมงคล: ผมคงเป็นนายแบบ เดินแบบ หรือแสดงหนังมั้งครับ มีติดต่อให้ไปแสดงหนังมาหลายเรื่องแล้วครับ
เค-วันไทยแลนด์: ช่วยเขียนอะไรถึงแฟนมวยที่คอยเชียร์ศิริมงคลด้วยครับ
ศิริมงคล: โอเค ได้ครับ
หลังจบการสัมภาษณ์ศิริมงคล ก็ได้ถ่ายภาพภายในค่ายมวยสิงห์มนัสศักดิ์ บนฝาผนังจะเต็มไปด้วยภาพต่างๆที่ศิริมงคลชกมวยสากล รวมถึงโปสเตอร์ต่างๆ ประกาศนียบัตรที่ใส่กรอบไว้อย่างสวยงาม
ช่วงประมาณบ่าย4โมง ก็ถึงเวลาที่ศิริมงคลจะต้องซ้อมตามปกติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นศิริมงคลเตะกระสอบทราย เตะเป้าให้พวกเราได้ชม ซึ่งการออกอาวุธในแบบมวยไทยของเขาทั้งการชก เตะ เข่า ศอก ล้วนมีความหนักแน่น อาวุธรุนแรงไม่แพ้นักมวยไทยชื่อดังเลยทีเดียว
วีดีโอคลิ๊ปการซ้อมมวยไทยของ ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ ที่คุณอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=xJvNpwyj2TEที่มา
http://www.k-1thailand.com/