วิชาญน้อย พรทวี "นักมวยอมตะ"
ฝึกโดย เฉลียว ทินโมราห์ ตั้งแต่ยังเด็ก
ชกมวยครั้งแรกชื่อ วิชาญน้อย ศรีเมืองนนท์
เริ่มชกมวย พศ.2503 นน.47กก.
จนอายุ34 แขวนนวมถาวรในพศ.2524
ตลอดการชกมา 20 ปี
จากเด็กร่างผอมตัวเล็ก สู่ แชมป์ไลท์เวท วิชาญน้อยเปลี่ยนค่าย3ครั้ง
เริ่มที่ ศรีเมืองนนท์ เปลี่ยนมาเป็น พรทวี และสุดท้ายก็ มาอยู่กับ เพชรยินดี จนจบอาชีพ
เขาชกมากกว่าร้อยนัด
การผสมผสานระหว่าง ทักษะชั้นสูง และ และอายุมวยที่ยาวผิดปกติ เมื่อเทียบกับนักชกคนอื่น
เขาจึงได้รับสมญานาม "นักสู้อมตะ"
วิชาญน้อย ได้รับ การยกย่องโดวยถ้วนหน้าว่า เป็น นักสู้อย่างแท้จริง
เขามีประวัติการชกที่ยาวนาน และประสบความเร็จ มีชื่อเสี่ยง
เขาเป็นแชมป์ ถึง3ครั้ง รุ่นฟลายเวททั้ง2เวที และ จูเนียร์ไลท์เวท ที่ราชดำเนิน
ในฐานะนักมวยประสบการณ์สูง นัดต่อยของเค้า ก็ได้รับการันตีจากแฟนๆว่าเป็น นัดที่ตื่นเต้น
นั่นเป็นสาเหตุ ที่คนเชียร์เขา จะไม่น้อยหน้าคู่ชก เลยในนัดกระชับมิตรต่างๆ
บางครั้งเค้าต้องสู้กับ คู่ต่อสู้ที่หนักกว่าเข้า หลายสิบปอนด์
แต่แฟนก็ยังเชื่อในสิ่งหนึ่งว่า วิชาญน้อย จะได้ทำดีที่สุด
ไม่ว่าแพ้หรือชนะ วิชาญน้อย ก็ได้สร้างความประทับใจแฟนๆ ด้วยความกล้า และสไตล์ของเขา
"นักสู้อมตะ"มีอุปนิสัยพิเศาอย่างหนึ่ง
เขาจะตกลงชกเมื่อ มั่นใจว่า ร่างกายเขาฟิตจริงๆ
เมื่อ ประเด็นซุบซิบ ไม่ได้อยู่ที่ การเตรียมตัวของเขา
วิชาญน้อย มักจะเป็นห่วงในเรื่อง นัดต่อยของเขาจะเลื่อนไป
ว่าเขาจะแสดงผลงานแก่แฟนได้ไม่ดีที่สุด
เขาสารภาพว่า ความกลัวที่สุด คือการโห่ไล่จากสังเวียนโดยแฟนๆ
นับว่าเป็น ความกลัวที่ สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
เขาเคยถูกไล่ฐานชกไม่สมศักดิ์ศรี2ครั้ง
แต่ข่าวลือ ว่าเขาล้มมวย ก้กระจ่าง ว่า เขาเพียงแต่ ร่างกายไม่ฟิตพอที่จะสร้างไฟต์ดีๆเท่านั้น
วิชาญน้อยเป็น แบบอย่างที่ดีแก่นักมวยคนอื่นๆ จากที่เป้นคนถ่อมตัว
เด็กจนๆที่จบเการศึกษาเพียงชั้นประถม สร้างตัวสู่ การยอมรับอย่างสูงในสังคม
ทางการเงิน เขายังบริหารธุรกิจ ด้วยความมัธยัสถ์
ในทางสังคม วิชาญน้อย ยังได้รับเลือก เป็น สมาชิก สมาคมเทศบาลเมือง จังหวัดนนทบุรี หลายต่อครั้งหลายครั้ง
นั่นได้พิสูจน์ว่า ความสำเร็จของเขา มิได้จำกัดแต่ในสังเวียนมวย
แต่ความรักมวย ก้ยังหยั่งลึกในสายเลือดเขา แม้เขาจะออกการต่อมวย
วิชาญน้อยก้ยังไม่ร้างลาจากวงการมวย
ด้วยทุนทรัพย์ เพื่อ สนับสนุนอุทิศ วงการมวย
เขาได้ตั้งค่ายของเขาเอง ช่อ ค่าย"วิชาญน้อยสโตร์"
ค่ายเขาได้สร้างนักชกวัยเยาว์ ซึ่งก็ไปได้ดีในหนทางของแต่ละคน
เขากล่าวว่า "มวยไทยคือ ศิลปะของการป้องกันตัว เป็นอาชีพ ที่สร้างเสริมสิ่งต่างๆ
เป็นมรดกโลก ที่คนไทยควรชื่นชม และรักษาด้วยความรักอย่างสูง...ตลอดไป"