ชื่อจริงสามารถ ทิพย์ท่าไม้
ฉายาพยัคฆ์หน้าหยก
วันเกิด5 ธันวาคม พ.ศ. 2505สถานที่เกิดจังหวัดฉะเชิงเทรารุ่นพินเวท (มวยไทย)
จูเนียร์ฟลายเวท (มวยไทย)
ซูเปอร์แบนตัมเวทเฟเธอร์เวทผู้จัดการทรงชัย รัตนสุบรรณสหสมภพ ศรีสมวงศ์เทรนเนอร์ยอดธง เสนานันท์ (มวยไทย)
สุดใจ สัพพะเลข (มวยสากล)
อิสมาเอล ซาลาส (มวยสากล)สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย อดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง มีชื่อจริงว่า
สามารถ ทิพย์ท่าไม้ เกิดเมื่อวันที่
5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลคลองเขต อำเภอบางปะกง
จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถหัดชกมวยครั้งแรกโดยเริ่มจากมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า " สามารถ ลูกคลองเขต
"
การชกมวยไทยสามารถชกมวยไทยในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง จึงได้เดินทางมาชกในกรุงเทพ ฯ ในปี
พ.ศ. 2522 ที่
เวทีลุมพินี โดยอยู่ในการดูแลของโปรโมเตอร์ชื่อดัง
ทรงชัย รัตนสุบรรณสามารถถือได้ว่าเป็นนักมวยที่มีชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของเวทีมวยลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นพินเวท (105 ปอนด์) ในปี พ.ศ.2523 รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2524 รุ่นเฟเธอร์เวท (116 ปอนด์) ในปี พ.ศ. 2524
มวยสากลอาชีพสามารถ พยัคฆ์อรุณ เริ่มหันมาชกมวยสากลอาชีพโดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหลายฝ่าย เช่น ทรงชัย รัตนสุบรรณ ผู้จัดการและโปรโมเตอร์
สหสมภพ ศรีสมวงศ์ และ
สุชาติ เกิดเมฆ สามารถชกมวยสากลสร้างประสบการณ์อยู่ 11 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท (112 ปอนด์) ของสภามวยโลก หรือ WBC กับมักมวยชาวเม็กซิกัน กัวดาลูเป้ พินเธอร์ ผลการชก สามารถเอาชนะน็อกแชมป์โลกไปได้ในยกที่ 5 กลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทยไปทันที
ภายหลังจากได้แชมป์โลกไปแล้ว สามารถชกป้องกันตำแหน่งอีกครั้งคือ การชกป้องกันตำแหน่งกับ ฮวน คิด เมซ่า นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ ผลปรากฏว่าสามารถก็เอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 12 การชกกับฮวน คิด เมซ่า นี้เป็นถึงกล่าวขานถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถพิงเชื่อกโยกหลบหมัดของผู้ท้าชิงด้วยสายตาอันว่องไวนับสิบ ๆ นัด และชกสวนหมัดตรงเข้าปลายคางไปเพียงหมัดเดียว ก็เอาชนะน็อกผู้ท้าชิงไปได้อย่างน่าประทับใจ โดยการชกครั้งนี้เป็นการชกร่วมรายการเดียวกับ
สด จิตรลดา ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC กับกาเบรียล เบอร์นัล ด้วย
จากนั้น สามารถเดินทางไปป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 เป็นการป้องกันตำแหน่งนอกบ้านถึงประเทศ
ออสเตรเลีย กับนักมวยเจ้าถิ่น
เจฟฟ์ เฟเนค (ซึ่งต่อมาเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น) การชกในครั้งนี้สามารถประสบกับปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวซึ่งต้องลดเป็นอย่างมาก จึงถูก เฟเนค น็อกในยกที่ 4 อย่างหมดรูป แต่กระนั้นก็ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า สามารถล้มมวยหรือเปล่า เพราะไม่เชื่อว่าฟอร์มการชกก่อนหน้านั้น 2 ครั้ง จะทำให้สามารถแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ซึ่งสามารถได้พิสูจน์ความจริงใจของตนเองด้วยการทำพิธีสาบานที่
วัดพระแก้วจนเป็นข่าวครึกโครมในช่วงนั้น
หลังจากเสียแชมป์โลกไปแล้ว สามารถ ยังคงชกมวยต่อ และกลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยการชนะนักมวยชั้นนำในสมัยนั้นหลายรายเช่น
เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เป็นต้น จนในปี พ.ศ. 2531 สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา
วงการบันเทิงด้วยความเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี มีบุคคลิกที่โดดเด่น ประกอบกับมีนิสัยเจ้าสำราญ ทำให้มีบุคคลชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้ในวงการมวยเลยทีเดียว สามารถมีผลงานในวงการบันเทิงครั้งแรกโดยการออกเทปกับบริษัท
แกรมมี่ ในชื่อชุด
" ร็อกเหน่อ ๆ " มีเพลงดังที่รู้จักกันดีในยุคนั้นคือเพลง
" อ่อนซ้อม " โดยเป็นการล้อเลียนการซ้อมมวยของสามารถเอง ซึ่งมักถูกกล่าวว่าเป็นมวยซ้อมน้อย และได้ออกอัลบั้มชุดต่อ ๆ มาอีกหลายชุด ไม่เพียงเท่านั้น สามารถยังได้ถ่ายแบบ แสดงหนัง ละคร หลายต่อหลายเรื่อง สามารถกลายเป็นดาราชื่อดังชั้นแนวหน้าในระยะเวลาไม่นาน และประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงโดยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองจากภาพบนตร์เรื่อง
" ขยี้ " ร่วมกับ
ลิขิต เอกมงคล ด้วย
สามารถ พยัคฆ์อรุณ คลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงนานหลายปี จนหลายคนเชื่อว่า เขาคงเลิกราจากวงการมวยแล้ว แต่ในปี พ.ศ. 2536 สามารถ ก็กลับมาสู่เส้นทางพื้นผ้าใบอีกครั้ง ด้วยมีเป้าตั้งไว้ที่จะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง โดยมี
ทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นผู้สนับสนุนอีกเช่นเคย สามาถชกอุ่นเครื่องเคาะสนิมอยู่ 5 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกใน
รุ่นเฟเธอร์เวท WBA กับ
อีลอย โรฮาส นักมวยชาวเวเนซูเอล่า ในปี พ.ศ. 2537 ผลการชกคือ สามารถแพ้น็อกไปอย่างสิ้นสภาพในยกที่ 8 ปิดฉากชีวิตในวงการมวยทันที
ในปัจจุบัน สามารถ ยังคงอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ และในวงการมวยมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง
อนึ่ง สามารถ พยัคฆ์อรุณ มีพี่ชายแท้ ๆ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยชื่อดังด้วยคือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ก้องธรณีเคยชกมวยสากลเหมือนสามารถ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งที่ 2 ได้ชิงแชมป์กับแชมป์โลกชาวไทยด้วยกันเองคือ เขาทราย แกแล็คซี่สถิติการชกมวยสากลของสามารถ พยัคฆ์อรุณชนะคะแนน 10 ยก
เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 24 สิงหาคม พ.ศ. 2525
ชนะคะแนน 10 ยก ฮวนนิโต้ ปาวิล่า นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 24 เมษายน พ.ศ. 2527
ชนะน็อกยก 1 โม โน้ด นักมวยชาวอินโดนีเชีย ที่เวทีมวยลุมพินี : 12 มิถุนายน พ.ศ. 2527
ชนะน็อกยก 7 แนปตาลี อลาแม็ก นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2527
ชนะน็อกยก 4 ฟาลิด กาลูซ นักมวยชาวฝรั่งเศส ที่เวทีมวยลุมพินี : 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527
ชนะคะแนน 10 ยก เอกลักษณ์ สิงห์นครหลวง ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 6 มกราคม พ.ศ. 2528
ชนะคะแนน 10 ยก ไฮเม่ เอนริเกวซ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่
อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ : 22 มิถุนายน พ.ศ. 2528
ชนะน็อกยก 6
ช่อ ห้าพลัง ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 15 กันยายน พ.ศ. 2528
ชนะน็อกยก 8 ทองเปิ้ม ลูกมาตุลี ที่
เวทีมวยช่อง 7 สี : 13 ตุลาคม พ.ศ. 2528
ชนะน็อกยก 6 ปาร์ค บวง ชู นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528
ชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC ชนะน็อกยก 5
กัวดา ลูเป้ พินเตอร์ นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก : 18 มกราคม พ.ศ. 2529
ชกนอกรอบ ชนะคะแนน 10 ยก ราฟาเอล กันดาริญญ่า นักมวยชาวอเมริกัน ที่
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส : 20 มิถุนายน พ.ศ. 2529
ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 ชนะน็อกยก 12
ฮวน คิด เมซ่า ที่
อินดอร์ สเตเดียม สนามกีฬาหัวหมาก : 10 ธันวาคม พ.ศ. 2529
เสียแชมป์โลก แพ้น็อกยก 4 เจฟฟ์ เฟเนค นักมวยชาวออสเตรเลีย ที่เมือง
ซิดนีย์ ประเทศ
ออสเตรเลีย : 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2530
ชนะน็อกยก 8 โฮกัน โนกูจิ นักมวยชาวญี่ปุ่น ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา : 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530
ชนะน็อกยก 4 เฮคเตอร์ เคอร์เตส นักมวยชาวอเมริกัน ที่
เวทีมวยสยามอ้อมน้อย : 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531
ชนะคะแนน 10 ยก
รูดี้ คาบิเลส นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ช่อง 5 : 8 สิงหาคม พ.ศ. 2536
ชนะน็อกยก 5 อิกนาโซ่ ฮาโคเม่ นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ช่อง 5 : 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536
ชนะคะแนน 10 ยก
ไทเกอร์ อาริ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยชั่วคราว
จังหวัดสุราษฎร์ธานี : 23 มกราคม พ.ศ. 2537
ชนะคะแนน 10 ยก โบเอ็ด แอนดาเรส นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดฉะเชิงเทรา : 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537
ชนะน็อกยก 5 เจอร์รี่ วิลลาคอร์เต้ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยชั่วคราว
จังหวัดสมุทรปราการ : 10 เมษายน พ.ศ. 2537
ชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวท WBA แพ้น็อกยก 8
เอรอยด์ โรฮาส นักมวยชาวเวเนซูเอล่า ที่เวทีมวยชั่วคราวหน้าโรงแรมเรือ
จังหวัดตรัง : 11 กันยายน พ.ศ. 2537
รวมสถิติการชกในแบบมวยสากลทั้งหมด 22 ครั้ง ชนะ 20 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง (ชนะน็อก 12 ครั้ง)